Home / วิธีการดูแลเลี้ยงดูแมว / แมวติดสัด ร้องไม่หยุด ทาสแมวควรทำอย่างไร?

แมวติดสัด ร้องไม่หยุด ทาสแมวควรทำอย่างไร?

แมวติดสัด ร้องไม่หยุด ทาสแมวควรทำอย่างไร?

เมื่อแมวติดสัดหรือมีอาการฮีทเราจะทำอย่างไรดีนะ? ทาสแมวหลายๆคนคงลำคาญไม่น้อย เมื่อแมวเข้าสู่ฤดูผสมพันธุ์ อาการเหล่านี้มักเกิดขึ้นประมาณ 3-4 อาทิตย์เลยทีเดียว อาการของแมวติดสัดนั้น โดยลูกแมวจะร้องบ่อยขึ้น ร้องเสียงแหลม และร้องโหยหวน เข้ามาเคล้าเคลียขาหรือเฟอร์นิเจอร์ กระสับกระส่าย เหมือนกับว่าพวกมันกำลังจะขาดใจตายให้ได้

อาการของแมวติดสัด โดยแมวบางตัวสามารถร้องได้ทั้งวัน ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องธรรมชาติของแมวก็เถาะ แต่มันทำให้คุณต้องเสียสุขภาพจิตเอาง่ายๆ อีกทั้งยังรบกวนคนรอบข้างจนต้องปวดหัวเลยทีเดียว เราไปดูกันว่าวิธีการบรรเทาให้แมวของคุณสงบและการแก้ไขอาการแมวติดสัดในระยาวสามารถทำได้อย่างไร?

วิธีการบรรเทาแมวติดสัดในระยะสั้น

ตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าแมวติดสัด ไม่ใช่อาการป่วย อาการแมวฮีทเป็นพฤติกรรมปกติของแมวโดยธรรมชาติ ปกติแล้วแมวจะมีฤดูผสมพันธุ์ระหว่างช่วงฤดูร้อน โดยส่วนมากแมวติดสัดมักจะมีอาการในช่วงเวลานี้ของปี หากพวกมันร้องโหยหวนไม่ยอมหยุด บางครั้งร้องได้ทั้งวันแทบจะไม่หลับไม่นอนเลยทีเดียว หากแสดงอาการแบบนี้หลายๆวัน

เมื่อสังเกตุอาการแล้วแน่ใจว่าแมวติดสัด ก่อนอื่นให้แยกแมวตัวเมียออกจากแมวตัวผู้ แล้วพยามอย่าให้แมวออกจากบ้าน เพราะได้กลิ่นแมวข้างนอก ควรปิดประตูหน้าและหน้าต่างให้มิดชิด เนื่องจากแมวตัวเมียจะร้องเพื่อเชื้อเชิญตัวผู้ให้เข้ามาผสมพันธุ์ หากมีแมวตัวผู้มาที่รั้วหรือหน้าต่าง ควรพาแมวตัวเมียออกจากบริเวณนั้น หรือมาที่หน้าต่างควรรูดผ้าม่านปิดหน้าต่างไว้อย่างมิดชิด

หากที่บ้านมีแมวตัวผู้อยู่ด้วยล่ะก็ ให้คุณแยกพื้นที่อย่างน้อยประมาณ 2-3 อาทิตย์ เพื่อป้องกันไม่ให้มันตั้งท้อง หากแมวตัวเมียสงบลงเมื่อไหร่ รอดูอาการอีกสักระยะ หากคุณปล่อยให้แมวที่มีอาการติดสัดอยู่ด้วยกันแล้ว ต้องจบลงด้วยการผสมพันธุ์กันอย่างแน่นอน

แมวติดสัด ร้องไม่หยุด ทาสแมวควรทำอย่างไร?

ทาสแมวก็ช่วยบรรเทาอาการแมวติดสัดได้

หากแมวของคุณมีอาการติดสัด ทาสแมวอย่างเราควรลองเบี่ยงเบนความสนใจของพวกมันดู โดยการเล่นกับแมว ลูบหัว เกาตัว แปรงขนด้านหลัง และรักษาความสะอากระบะทรายของพวกมัน โดยธรรมชาติแล้วแมวมักจะส่งกลิ่นเฉพาะตัวของมัน เพื่อดึงดูดตัวผู้เมื่อแมวติดสัด หากแมวตัวเมียที่มีอาการติดสัดปัสสาวะนอกกระบะทรายให้ทำความสะอาดทันที หากปล่อยเอาไว้จะยิ่งกระตุ้นให้พวกมันสร้างพื้นที่กลิ่นเฉพาะอีก

สมุนไพรบางตัวตามท้องตลาดสามารถช่วยบรรเทาอาการแมวติดสัดได้โดยเฉพาะ แต่ก็ใช่ว่าจะใช้ได้กับแมวทุกตัว หากจะใช้วิธีนี้ลองซื้อมาทดลองใช้ หากอาการแมวติดสัดบรรเทาลง ค่อยซื้อมาเพิ่ม ก่อนใช้ยาควรทำตามขั้นตอนบนฉลากอย่างเคร่งครัด อย่าให้ยาแมวที่มีอาการติดสัดมากเกินไป

ถ้าหากวิธีแรกยังใช้ไม่ได้ผล ลองใช้เฟลิเวย์ (Feliway) ฟีโรโมนแมวสังเคราะห์ อาจช่วยให้แมวของคุณค่อยๆสงบลงและลดอาการร้องโหยหวนลงได้ วิธีนี้ไม่ใช่การแก้ปัญหาโดยทันที แต่ถ้าคุณเดาอาการแมวติดสัดออกแต่เนินๆ อาจจะช่วยบรรเทาให้พวกมันค่อยๆสงบลงได้

แมวบางตัวไม่ตอบสนองกับสมุนไพรที่ผลิตมาเพื่อใช้เยียวยาแมวติดสัด หรือเฟลิเวย์ (Feliway) ให้ลองใช้แคทนิป (Catnip) หรือกัญชาแมว เพื่อที่จะทำให้แมวที่มีอาการติดสัดรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น วิธีนี้จะเป็นการแก้ปัญหาอาการแมวติดสัดชั่วคราวเท่านั้น อาจจะทำให้พวกมันสงบได้ 1-2 ชั่วโมง

แมวติดสัด ร้องไม่หยุด ทาสแมวควรทำอย่างไร?

ทำหมันแมวเพื่อแก้ไขอาการแมวติดสัดในระยะยาว

การทำหมันแมวช่วยแก้ไขอาการแมวติดสัดในระยะยาว ป้องกันวงจรการติดสัดไม่ให้เกิดขึ้นอีก ทาสแมวจำเป็นต้องรอจนกว่าแมวติดสัดจะสงบลง จึงจะสามารถพาไปทำหมันได้ ถึงแม้ว่าแมวติดสัดอยู่จะสามารถทำหมันได้ แต่มีความเสี่ยงที่แมวจะเสียเลือดมาก ผู้เลี้ยงสามารถนำแมวของคุณไปทำหมันได้ในช่วงวัยเริ่มเจริญพันธุ์ เวลาที่ช่วงอายุที่เหมาะสมประมาณ 6 เดือนขึ้นไป หรือวงรอบเป็นสัดครั้งแรก

ข้อดีของการทำหมันแมวนั้น นอกจากจะไม่ทำให้แมวติดสัดแล้ว ยังป้องกันไม่ให้แมวตั้งท้องป้องกันการเกิดลูกแมวโดยไม่ตั้งใจ  แล้ว ยังลดความเสี่ยงของโรคต่างๆ เช่น มะเร็งปากมดลูก มะเร็งรังไข่ รวมถึงมะเร็งเต้านมในแมว และโรคเอดส์ สำหรับราคาในการทำหมันแมว จะอยู่ที่ประมาณ 800- 2,000 บาท. หากคุณมีลูกแมวหลายตัวหรือไม่สามารถจ่ายค่าผ่าตัดได้ ยังมีคลินิกหลายๆแห่งที่ให้บริการทำหมันแมวในราคาถูก

User Rating: 5 ( 7 votes)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *